เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดนไล่ออกพร้อมกับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระเด็นตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังแพ้คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล 2-1 สกอร์รวม 5-1
หงส์แดงของกุนซือเยอร์เก้น คล็อปป์ ปิดจ็อบด้วยการโค่นเรือใบทั้งสองนัด ทุบ 3-0 ที่แอนฟิลด์ในเลกแรก ก่อนมาย้ำแค้นแซงชนะ 2-1 ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกแบบเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
กวาร์ดิโอล่า จัดทัพเน้นเกมบุกเต็มตัวจากสกอร์ที่ตามหลังถึง 3 ลูกในนัดแรก เควิน เดอ บรอยน์,เลอรอย ซาเน่,ดาบิด ซิลบา,ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และหอกตัวเป้า กาเบรียล เชซุส
ทางด้านคล็อปป์ ที่ไม่มีทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เอมเร่ ชาน ทำให้แดนกลางต้องพึ่งไปที่ จอร์จิโอ ไวจ์นาลดุม,เจมส์ มิลเนอร์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แนวรุกได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คัมแบ็กประสานงาน ซาติโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ซิตี้เริ่มเกมได้อย่างทื่หวัง ได้ประตูเร็วขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค พลาดโดน แฟร์นานดินโญ่ ตัดบอลไปได้จากกลางสนาม ก่อนแทงทะลช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่งเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนปาดกลับเข้ากลางให้ กาเบรียล เชซุส วิ่งเข้าแปด้วยขวาแถวจุดโทษเสียบมุมซ้ายมือ ลอริส คาริอุส ที่ไปไม่ทัน
เจ้าบ้านได้ใจลุยแหลก และเป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้หมด มีลุ้นได้ประตูจาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่ยิงชนเสา และ เลอรอย ซาเน่ ที่่ซัดเข้าไปแล้ว แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปซะก่อน ซึ่งจังหวะนี้ช่วงหมดเวลาครึ่งแรก กวาร์ดิโอล่า เข้าประท้วงหนัก ทำให้เจอใบแดงต้องขึ้นไปดูเกมบนอัฒจันทร์ในครึ่งหลัง
45 นาทีสุดท้าย จังหวะสวนกลับของหงส์แดงนำมาซึ่งประตูตีเสมอ 1-1 นาที 56 จากจังหวะที่ ซาลาห์ จ่ายบอลให้ มาเน่ กระชากลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษไปถึงนายทวาร เอแดร์สัน ที่ถลาออกมาบล็อกแล้วบอลกระฉอก เลยโดร ซาลาห์ ที่อาศัยความไวตามเก็บยกบอลหนีออกทางซ้ายแล้วชิพนิ่มๆเข้าทางเสาไกล เป็นอเวย์โกล์ที่้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเรือใบต้องยิงอีก 4 ประตูถึงจะเข้ารอบได้
เจ้าถิ่นแทบจะบุกไปงั้นๆแล้วในช่วงเวลาที่เหลือ ก่อนที่ทีมเยือนจะมาได้ประตูแซงนำ 2-1 ให้มันจบกันไปในนาที 77 เมื่อ ฟีร์มิโน่ ฉกบอลมาจาก โอตาเมนดี้ ทางริมเส้นฝั่งซ้าย เลี้ยงเข้าเขตโทษแล้วยิงเรียดสวนตัว เอแดร์สัน เช็ดโคนเสาไกลเข้าประตูไป เป็นประตูชัยให้ลิเวอร์พูล เก็บสกอร์รวมสองนัด 5-1 หมดจดงดงาม