แกเร็ธ เบล ลงมาจากม้านั่งสำรองทำหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ ลีก ลอริส คาริอุส ทำเสียประตูแบบพลาดมหันต์ เรอัล มาดริด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 คว้าแชมป์
เกมนัดชิงเจ้ายุโรปที่เคียฟเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีเรื่องราวดราม่าตลอด 90 นาที ไฮไลท์สุดติ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สตาร์หงส์แดง โดน เซร์กิโอ รามอส ล็อกแขนจนไหล่เดี้่ยง เล่นต่อไม่ไหวหลั่งน้ำตาเดินออกจากสนาม
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ราชันเดินเข้ามาปลอบ แต่รูปเกมที่ทีมจากพรีเมียร์ลีกกำลังคุมจังหวะได้ดี เหมือนแท็กติกส์ที่เยอร์เก้น คล็อปป์วางลงมาถูกทำลายลงทันทีหลังไม่มีแข้งอียิปต์ อดัม ลัลลาน่า ที่ลงมาแทน ยังแทนไม่ได้
นาที 36 ดานี่ การ์บาฆาล แบ็คขวาราชัน ดีกรีทีมชาติสเปน ส่อแววชวดบอลโลกอีกคนหลังเจ็บข้อเท้า ต้องเดินร้องไห้ออกจากสนาม และให้ นาโช่ ลงมาเล่นแทน แต่ไม่ส่งผลกระทบกับยอดทีมจากเบร์นาเบว
ครึ่งหลังรันสกอร์ นาที 51 มาดริดออกนำ 1-0 ด้วยประตูสุดงงแห่งปี คาริอุส รับบอลอยู่ในกรอบไม่มีอะไรเลย แต่ขว้างออกบอลไม่ระวังผ่านหน้า คาริม เบนเซม่า ที่แหย่ขาขวางโดนบอลกระดอนเข้าประตูไปเฉย
หงส์แดงตามตีเสมอด้วยลูกสูตรเตะมุมในอีก 4 นาทีต่อมา เจมส์ มิลเนอร์ โยนจากฝั่งขวาโด่งย้อยๆเข้ามากลางประตู เดยัน ลอฟเรน ขึ้นโหม่งชงเข้าหาประตู และเป็น ซาดิโอ มาเน่ เข้าชาร์จจ่อๆไม่เหลือซาก
นาที 64 เบล ที่ถูกส่งลงมาแค่ 122 วินาที ทำประตูสุดสวย สุดยาก มหัศจรรย์ เมื่อมาร์เซโล่ ตักบอลจากด้านซ้ายเข้ามาให้ปีกทีมชาติเวลส์ที่หันหลังให้ประตู กระโดดลอยทั้งตัวตีลังกายิงด้วยซ้ายข้างถนัด จังหวะเป๊ะ น้ำหนักเป๊ะ บอลลอยเสียบสามเหลี่ยมหมดสิทธิ์กันไปสำหรับคาริอุส
7 นาทีก่อนจบเกม ได้ชมประตูหมูหกแห่งปี เบล ได้บอลเข้าระยะ 25 หลา ลองส่องด้วยซ้ายไปยังงั้นเอง บอลลอยส่ายๆแต่ไม่เยอะ คาริอุส ลังเลเพียงเสี้ยววินาทีทำให้รับบอลหลุดมือเข้าประตูไปเลย 3-1 จบเกม
เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 13 เป็นสมัยที่ 4 จาก 5 ปีหลัง และสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ 3 สมัยติดด้วยกุนซือคนเดียว ซีเนอดีน ซีดาน